AHCC ทางเลือกสำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับและไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง
AHCC ทางเลือกสำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับและไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง
มะเร็งตับ เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ในเพศชาย และอันดับ 2 ในเพศหญิง และผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งตับนี้ ถ้ารู้ตัวก็มักจะเสียชีวิตใน 3 – 6 เดือน ส่วนใหญ่ของการเกิดมะเร็งตับมีสาเหตุมาจากไวรัสตับอักเสบบีและซี จากข้อมูลสถิติของหลายสถาบันได้ผลใกล้เคียงกันว่า 80% ของผู้ป่วยโรคมะเร็งตับเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ผู้ที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเป็นมะเร็งตับ โดยมีความเสี่ยงสูงกว่าคนปกติถึง 223 เท่า ในขณะที่ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังก็มีโอกาสเป็นมะเร็งตับสูงเช่นกัน
ในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง ผู้ที่เคยรับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ผ่าตัด หรือฉายแสง มักจะมีปัญหาของระบบภูมิคุ้มกันต่ำ การสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกันและ ใช้ร่วมในการรักษามะเร็ง โดยพบว่าเม็ดเลือดขาวชนิดที่เรียกว่า NK Cell เป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง รวมทั้งต่อต้านไวรัสและเชื้อโรคอื่นๆ ดังนั้นการกระตุ้นการทำงานของ NK Cell รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันโดยรวมจึงเป็นความหวังใหม่ของผู้ป่วยมะเร็งในการ ต่อสู้กับมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งตับและยังรวมไปถึงการรักษาไวรัสตับอักเสบแบบ เรื้อรังด้วย
AHCC เป็นสารที่สกัดได้จากไมซีเลียม (Mycelium) ของเห็ดหลายชนิดตระกูล Basidiomycetes ที่ถูกเพาะเลี้ยงโดยวิธีพิเศษซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น โดยตั้งแต่ปี 1986 มีรายงานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ 29 ชิ้น ที่ได้รับการตีพิมพ์ รวมไปถึงจากประสบการณ์การใช้ AHCC ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในโรงพยาบาลและศูนย์แพทย์กว่า 700 แห่ง รวมถึงรายงานการวิจัยในประเทศญี่ปุ่นพบว่า AHCC มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย กล่าวคือ
1. เพิ่มปริมาณและการทำงานของ NK Cell และแมคโครฟาร์จซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันอีกชนิดหนึ่งทำหน้าที่ในการควบคุมปริมาณ เซลล์มะเร็งและการแพร่กระจาย
2. เพิ่มปริมาณ TNF (Tumor Necrosis Factor) ในร่างกายทำให้เกิดการทำลายเซลล์มะเร็ง
3. เพิ่มปริมาณอินเตอร์ลิวคีน หรือ IL-2 และ IL-12 ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมเซลล์มะเร็งไม่ให้เจริญเติบโต
นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาทางคลินิกเกี่ยวกับการใช้ AHCC ในผู้ป่วยมะเร็งตับที่นำเสนอในการประชุม Congress of The European Society for Surgical Research ครั้งที่ 33 โดยมีผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดมะเร็งตับทั้งหมด 151 ราย และผู้ป่วยจำนวน 70 รายยินดีเข้าร่วมงานวิจัยครั้งนี้ ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 1992 ถึงกันยายน 1999 โดยผู้ป่วย 70 รายนั้นได้รับ AHCC วันละ 3 กรัม เปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเพียงอย่างเดียว จากการศึกษาพบว่า
1. อัตราการกลับมาเป็นมะเร็งตับซ้ำในผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับ AHCC มีเพียง 49% ขณะที่ผู้ป่วยกลุ่มที่ไม่ได้รับ AHCC มีอัตราการเป็นซ้ำสูงถึง 67 %
2. ในผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับ AHCC มีอายุเฉลี่ยยืนยาวกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับถึง 23 เดือน
3. เมื่อเปรียบเทียบอัตราการมีชีวิตอยู่ด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีนั้นพบว่าผู้ป่วย กลุ่มที่ได้รับ AHCC มีอัตราการมีชีวิตอยู่สูงถึง 79 % ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับมีอัตราการมีชีวิตอยู่ที่ 51 %
สำหรับในประเทศไทยได้เคยมีการศึกษาการใช้ AHCC ในผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้ายโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติเมื่อปี 2545 โดยสุ่มคัดกรองตัวอย่างผู้ป่วยที่เป็นคนไทย จำนวน 44 คน ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ไม่สามารถทำการผ่าตัดหรือรักษาด้วยเคมีบำบัด แบ่งกลุ่มผู้ป่วยออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่รับประทานสารสกัด AHCC จำนวน 34 คน และกลุ่มที่รักษาปกติ หรือประคับประคอง จำนวน 10 คน ในกลุ่มผู้ที่ได้รับประทานจะได้รับสารสกัด Proteoglycan หรือ AHCC วันละ 6 กรัม การวิจัยครั้งนี้เพื่อตรวจหาปริมาณสารอินเตอร์ลิวคีน 12 (IL12) และสารอินเตอร์เฟอรอนแกมมา ซึ่งเป็นดัชนีบ่งชี้ประสิทธิภาพภูมิต้านทานของร่างกาย รวมทั้งประเมินคุณภาพชีวิตผู้ป่วยในเดือนที่ 1, 3 และเดือนที่ 6 ผลการวิจัยสรุปว่า กลุ่มผู้ป่วยที่รักษาแบบประคับประคองเสียชีวิตทั้งหมดในเวลาเฉลี่ย 3.5 เดือนและกลุ่มที่รับประทานสารสกัด Proteoglycan หรือ AHCC ยังมีชีวิตอยู่สูงถึง 73% ทำให้การมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผลการตรวจพบว่าระดับสารอินเตอร์ลิวคีน 12 (IL12) และสารอินเตอร์เฟอรอนแกมมาเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีประสิทธิภาพสูงขึ้น จึงอาจสรุปได้ว่าสารสกัด Proteoglycan หรือ AHCC จึงสามารถใช้เป็นตัวกระตุ้นภูมิต้านทานด้วยวิธีการการรับประทานได้
ในส่วนที่เกี่ยวกับไวรัสตับอักเสบเรื้อรังทั้งชนิดไวรัสตับ อักเสบบี หรือซี พบว่าภูมิคุ้มกันมีส่วนสำคัญในการควบคุมและกำจัดไวรัสตับอักเสบ ดังนั้น การใช้ AHCC ร่วมกับการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมจึงอาจเป็นตัวช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้ม กันในร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ซี่งอาจช่วยชะลอภาวะของโรค ชะลอความรุนแรง และควบคุมปริมาณเชื้อไวรัสตับอักเสบได้
ด้วยข้อมูลทั้งหมดตามที่กล่าวมานี้ สารสกัด AHCC จึงอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการใช้ร่วมในการรักษาสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ตับหรือไวรัสตับอักเสบเรื้อรังที่น่าสนใจ
You must be logged in to post a comment.