29Oct, 2018

วิตามินบำรุงสายตา

By: | Tags:

ในสังคมปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา ทั้งโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก โทรทัศน์หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ล้วนมีแสงสีฟ้าที่สามารถทำร้ายดวงตาของเราได้ ดังนั้นเราจะแนะนำวิตามินที่มีส่วนช่วยบำรุงสายตาให้กับทุกคนกันค่ะ 1.Lutein และ Zeaxanthin เป็นสารในกลุ่มแซนโทฟิลล์ (Xanthophyll) ที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหาร ทำหน้าที่ปกป้องจอประสาทตา ชะลอการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมและโรคต้อกระจก ซึ่งอาหารที่มีลูทีนและซีแซนทีนสูง เช่น ผักคะน้า ผักปวยเล้ง ผักกาดแก้ว บล็อคโคลี่ ข้าวโพดหวาน ถั่วเขียว กะหล่ำปลี ไข่แดง เป็นต้น ส่วนลูทีนและซีแซนทีนในอาหารเสริมมาจากสารสกัดจากดอกดาวเรือง ในขนาด 6-20 mg แล้วแต่บริษัทผู้ผลิต 2.Bilberry บิลเบอร์รีเป็นสารกลุ่มแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ช่วยทำให้การมองเห็นในที่มืดดีขึ้น และยังมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีอาจช่วยชะลอการเกิดจอประสาทตาเสื่อมได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาอีกด้วย 3.Beta-Carotene สารเบต้าแคโรทีนจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย ช่วยในการสร้างเม็ดสีจึงทำให้มองเห็นในที่มืดได้ดี พบมากในผัก ผลไม้ที่มีสีส้ม เหลือง เช่น แครอท ฟักทอง มะละกอสุก เป็นต้น รวมถึงผักสีเขียว เช่น ผักบุ้ง ตำลึง ผักคะน้า เป็นต้น 4.Lycopene ไลโคปีนเป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ซึ่งจะอยู่ในผักผลไม้ที่มีสีแดง ส้มและเหลือง เช่น มะเขือเทศ แครอท มะละกอ ฟักข้าว เป็นต้น ช่วยบำรุงและชะลความเสื่อมของดวงตา นอกจากนั้นยังมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีอีกด้วย  
READ MORE

29Oct, 2018

รองเท้าที่เหมาะสมในแต่ละคน

By: | Tags:

รองเท้าที่เหมาะสมในแต่ละคน         นักกีฬา ควรเลือกซื้อรองเท้ากีฬา หลังจากเดินสักพักหรือหลังจากเล่นกีฬาเสร็จ เพราะเท้าจะมีขนาดเดียวกันกับขณะเล่นกีฬา ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่ม และมีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับแรงกระแทกได้ดี หากกีฬาที่เล่นใช้ปลายเท้าเป็นส่วนมาก เช่น ฟุตบอล การวิ่ง ควรเลือกรองเท้าที่น้ำหนักเบา กระชับ และออกแบบให้รองรับแรงกระแทกส่วนหน้าโดยเฉพาะ  มีโครงช่วยประคองข้อเท้าด้านหลัง ( heel counter ) แต่ถ้าเป็นกีฬาที่ต้องใช้การบิดหรือหมุนของข้อเท้ามาก เช่น บาสเกตบอล ควรเลือกรองเท้าที่หุ้มมาถึงข้อเท้า ไม่ใช่หุ้มแค่ระดับตาตุ่มเท่านั้น         สำหรับการปิดรองเท้าจะมี 2 แบบ คือผูกเชือก กับ ใช้แถบ Velcro (บางคนเรียกตีนตุ๊กแก หรือแถบหนามเตย) หากต้องการความกระชับมากมาก อย่างนักกีฬาอาชีพ ควรเลือกแบบผูกเชือก แต่ถ้าไม่และรู้สึกยุ่งยากในการผูกเชือกรองเท้า แนะนำให้เลือกแบบ Velcro ซึ่งกระชับน้อยกว่าแต่สะดวกกว่า         คนเท้าแบน มีทั้งแบบถาวรและชั่วคราว ฝ่าเท้าแบนทำให้ปวดบริเวณกลางฝ่าเท้า เนื่องจากเอ็นซึ่งทำหน้าที่ยกอุ้งเท้าถูกดึงยึด ดังนั้นหากคุณเป็นคนฝ่าเท้าแบนชั่วคราว(คือเท้าแบนเมื่อเหยียบพื้นเท่านั้น)ควรสวมรองเท้าที่เสริมอุ้งเท้า(บริเวณพื้นรองเท้าด้านในช่วงกลางที่นูนขึ้น)เพื่อช่วยเส้นเอ็นพยุงอุ้งเท้า มีที่หุ้มด้านข้างและหลังเท้า เพื่อพยุงไม่ให้ส้นเท้าบิดและเท้าล้มเข้าด้านใน แต่หากฝ่าเท้าแบนถาวร ซึ่งมักมีเท้าส่วนกลางกว้างกว่าปกติ ควรเลือกรองเท้าที่ด้านข้างกว้าง และมีพื้นนิ่มใส่สบาย         คนอุ้งเท้าสูง จะมีปัญหาปวดบริเวณฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้า เพราะการรับน้ำหนักของอุ้งเท้าส่วนกลางหายไป รองเท้าจึงควรมีลักษณะเสริมอุ้งเท้าส่วนกลาง(ยกนูนช่วงกลางฝ่าเท้าและเสริมอุ้งเท้า)เพื่อช่วยกระจายน้ำหนักจากฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้ามาที่อุ้งเท้า ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่มและมีความยืดหยุ่น         คนปวดส้นเท้า การปวดส้นเท้าส่วนใหญ่เกิดจาก จุดยึดพังผืดบริเวณส้นเท้าอักเสบ ซึ่งมักปวดมากในการเดินก้าวแรกหลังตื่นนอน เพราะพังผืดถูกยืดทันทีทันใด รองเท้าที่เหมาะกับปัญหานี้ ควรมีพื้นนิ่ม มีส้นเล็กน้อยเพื่อถ่ายน้ำหนักไปยังเท้าส่วนหน้า การใส่รองเท้าที่มีการเสริมอุ้งเท้า และนวดฝ่าเท้าก่อนลุกจากเตียง รวมถึงการบริหารยืดเอ็นร้อยหวายซึ่งทำได้โดย นั่งเหยียดขาข้างที่ต้องการยืดไปด้านหน้า และใช้ผ้าคล้องที่ปลายเท้าเอาไว้ ขาอีกข้างชันเข่าขึ้น และออกแรงดึงปลายผ้าทั้งสองข้างเข้าหาตัวจนรู้สึกว่าน่องตึง ค้างไว้ 10 วินาที นับเป็น 1 ครั้ง ทำวันละ 10-15 ครั้ง จะช่วยลดการปวดเท้าและลดการเกิดอาการช้ำได้         คนปวดฝ่าเท้าด้านหน้า ปัญหานี้พบบ่อยในผู้ที่ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ และผู้ที่มีภาวะหัวแม่เท้าเก ซึ่งหัวแม่เท้าไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ภาระจึงตกอยู่กับฝ่าเท้าบริเวณนิ้วชี้ถึงนิ้วก้อย เมื่อรับน้ำหนักนาน ๆ จึงทำให้ปวด ดังนั้นผู้ที่มีอาการนี้จึงควรใส่รองเท้าส้นเตี้ย […]
READ MORE

29Oct, 2018

ดูแลลูกน้อยอย่างไรให้ห่างไกล “ผื่นผ้าอ้อม”

By: | Tags:

ดูแลลูกน้อยอย่างไรให้ห่างไกล “ผื่นผ้าอ้อม”                    ผื่น ผ้าอ้อมไม่ได้เกิดจากตัวผ้าอ้อมโดยตรงแต่เกิดเนื่องจากผลของการใช้ผ้าอ้อม เช่น ความร้อน อบ อับ เปียกชื้นเหงื่อที่ผิวหนังและปัสสาวะและอุจจาระที่ติดอยู่ที่ผ้าอ้อม และการดูแลผิวหนังบริเวณนั้นไม่ถูกต้องทำให้ผิวหนังเปียกชื้นและสัมผัสกับ ปัสสาวะและอุจจาระเป็นเวลานานจนเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดง เปื่อยเป็นแผลและอาจติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราซ้ำเติม                    สาเหตุ                    ปัญหา ผื่นผ้าอ้อมที่เกิดขึ้นกับลูกน้อยนั้นส่วนใหญ่เกิดจากการเสียดสี ความเปียกชื้น หรือการติดเชื้อที่ผิวหนัง  ผื่นผ้าอ้อมถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งจะมักจะพบในทารกช่วงอายุ 4 ถึง 15 เดือน                    ผื่นคันจากความเปียกชื้นหรือการเสียดสีของผ้าอ้อม                    ลักษณะ : มักเกิดบริเวณผิวหนังส่วนที่เสียดสีกับผ้าอ้อมของทารก เช่น บริเวณอวัยวะเพศ ต้นขาและก้น อาจเป็นรอยบวมแดง                    สาเหตุ : บางครั้งเพียงแค่การที่ผิวหนังเสียดสีกับผ้าอ้อมสัมผัสกับสารเคมีหรือน้ำหอม ในผ้าอ้อมสำเร็จรูปหรือผลิตภัณฑ์ซักผ้า ก็สามารถทำให้ผิวของทารกระคายเคืองและเกิดผื่นคันได้แล้วผื่นชนิดนี้เรียก ว่า ผื่นแพ้จากการสัมผัส (Contact Dermatitis) ซึ่งสาเหตุของผื่นผ้าอ้อมแบบนี้ที่พบได้บ่อยๆก็คือความเปียกชื้นนั่นเอง แม้คุณแม่จะเลือกผ้าอ้อมที่ซึมซับได้ดีที่สุดแต่เรื่องความอับชื้นนั้นก็ถือ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และยิ่งเมื่อแบคทีเรียจากอุจจาระผสมเข้ากับ ปัสสาวะของทารกด้วยแล้วก็อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองที่รุนแรงต่อผิวทารก ได้  ดังนั้นวิธีแก้ไขจึงต้องแนะนำให้คุณแม่คอยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกน้อยบ่อยๆ เพื่อลดการอับชื้น                    ผื่น ผ้าอ้อมแบบนี้มีโอกาสเกิดซ้ำได้อีกสำหรับทารกที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือถ้าเมื่อไหร่ที่ไม่สบาย และต้องกินยาปฏิชีวนะก็อาจเกิดผลข้างเคียงคือท้องเสีย ซึ่งทำให้ต้องถ่ายบ่อย และเกิดความอับชื้นได้ก็จะมีโอกาสเกิดผื่นผ้าอ้อมได้ง่ายเช่นกัน                    วิธีป้องการเกิดผื่นผ้าอ้อม                    วิธีป้องกันผื่นผ้าอ้อมที่ดีที่สุดคือการรักษาก้นของทารกให้แห้งอยู่เสมอ คุณแม่จึงควรหมั่นเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกน้อยบ่อยๆ ทำความสะอาดอวัยวะเพศของลูกน้อยทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าอ้อมโดยใช้ผ้าแตะซับ ผิวของลูกเบา ๆ ให้แห้ง ระวังอย่าใช้ผ้าถู เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง เมื่อลูกน้อยเริ่มกินอาหารแข็งๆ ได้บ้างแล้ว แนะนำให้คุณแม่ค่อย ๆ ให้ลูกหัดกินไปทีละอย่างรอสักสองสามวันค่อยให้ลูกน้อยกินอาหารชนิดใหม่วิธี นี้จะช่วยให้คุณแม่รู้ว่าผื่นผ้าอ้อมเป็นผลมาจากการแพ้อาหารชนิดนั้น ๆ หรือไม่ อย่าใส่ผ้าอ้อมให้แน่นจนเกินไปการสวมเสื้อผ้าและผ้าอ้อมให้ทารก ควรให้มีช่องว่างหลวม ๆพอที่จะให้อากาศระบายได้และควรหลีกเลี่ยงผ้าที่แนบติดตัว เช่น กางเกงผ้าพลาสติกแน่นๆ ไม่ควรซักผ้าอ้อมด้วยผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ผสมน้ำหอมและไม่ควรใช้น้ำยาปรับผ้า นุ่ม  เพราะทั้งสองอย่างนี้อาจทำให้ผิวของลูกน้อยระคายเคืองได้ควรใช้น้ำร้อนซักทำ ความสะอาดผ้าอ้อมแล้วล้างด้วยน้ำเปล่าสองครั้งหรือคุณแม่จะเติมน้ำส้มสายชู สักครึ่งถ้วยลง ในน้ำล้างน้ำแรกก็ได้เพื่อช่วยขจัดสารที่มีฤทธิ์เป็นด่างซึ่งก่อให้การระคาย เคือง ถ้าคุณแม่ใช้ผ้าอ้อมแบบสำเร็จรูปบางครั้งอาจต้องลอง เปลี่ยนยี่ห้อแล้ว คอยสังเกตว่า อาการผื่นคันของลูกน้อยดีขึ้นหรือไม่ โดยปกติแล้วอุจจาระบวกกับปัสสาวะของทารกจะมีความเป็นด่างซึ่งทำให้ผิวระคาย เคืองและมี โอกาสเป็นผื่นผ้าอ้อมได้มากขึ้น แต่การให้ทารกกินนมแม่ให้นานที่สุดอาจช่วยได้เพราะว่านมแม่จะช่วยลดค่า PHในอุจจาระได้ ทำให้มีความเป็นกรดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้โดยทั่วไปแล้วการให้น้อง […]
READ MORE

29Oct, 2018

โรคในหน้าฝน

By: | Tags:

    Q : ตอนนี้ประเทศไทยเรากำลังเข้าสู่ฤดูฝน เพื่อนๆหลายคนก็อาจจะทำงานหนัก และขาดการพักผ่อน บางทีก็ตากฝน และอาจทำให้เราป่วย อยากทราบว่าโรคในหน้าฝน มีอะไรบ้างค่ะ       A :กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้ออกประกาศเตือนประชาชนในการป้องกันโรคติดต่อที่มักเกิดขึ้นในฤดูฝน โดยมี 5 กลุ่ม ได้แก่ 
READ MORE

29Oct, 2018

My heart,Your heart

By: | Tags:

ในวันที่ 29 กันยายน ของทุกปีถูกกำหนดเป็นวันหัวใจโลก (World Heart Day) สำหรับในปีนี้มีแคมเปญที่มีชื่อว่า My heart , Your heart ซึ่งสื่อถึงการดูแลบำรุงรักษาหัวใจของตนเองและยังครอบคลุมไปถึงการดูแลหัวใจของบุคคลอื่นอันเป็นที่รักของเราหัวใจของเราทำหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งในการสูบฉีดเลือดซึ่งอุดมไปด้วยออกซิเจนและสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ส่งไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายส่งผลให้เซลล์เหล่านั้นสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปกติหัวใจเรานั้นปกติเต้นเฉลี่ย 72 ครั้งต่อนาที หมายความว่าเมื่อเราอายุ 66 ปี หัวใจของเราจะเต้นไปแล้วประมาณ 2,500 ล้านครั้ง โดยไม่มีการหยุดพัก!!! ไม่ว่าตัวเราจะทำงาน นั่งพักผ่อนหรือนอนหลับ หัวใจยังคงต้องทำงานตลอดเวลา ดังนั้นหัวใจจึงเป็นอวัยวะที่มีโอกาสเสื่อมได้ง่ายกว่าอวัยวะอื่น ถ้าหากเราต้องการให้หัวใจยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงแม้ว่าจะเข้าสู่วัยสูงอายุแล้วจึงต้องมีการดูแลรักษาทะนุถนอมหัวใจเราเป็นอย่างดีและรวมถึงช่วยดูแลหัวใจของผู้ที่เรารักอีกด้วย แต่ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ครับว่าเราจะดูแลหัวใจเราอย่างไรให้แข็งแรงในขณะที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวจนถึงเข้าสู่วัยสูงอายุ ง่ายมาก ๆ ครับ เพียงแค่ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านล่าง ดังนี้1.เลิกบุหรี่ บุหรี่เป็นศัตรูของหัวใจที่สำคัญ ยกตัวอย่างสารบางชนิดในบุหรี่ที่มีโทษต่อร่างกาย เช่น นิโคตินทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์แย่งชิงกับออกซิเจนเพื่อจับกับเม็ดเลือดแดงส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง การบีบตัวลดลง กระตุ้นความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ส่งผลทำลายหัวใจอย่างมาก ลองดูผลดีจากการเลิกบุหรี่ เช่น เพียงหยุดสูบแค่ 8 ชั่วโมง คาร์บอนมอนออกไซด์จะถูกขจัดออกจากร่างกาย ออกซิเจนกลับสู่ระดับปกติ ถ้าหยุดสูบได้อย่างน้อย 3 วัน นิโคตินจะถูกขจัดออกจากร่างกายไปหมด2. ควบคุมโคเลสเตอรอลในเลือดในความเป็นจริง โคเลสเตอรอลเป็นสารที่จำเป็นต้องการทำงานของร่างกาย แต่ในการที่มีโคเลสเตอรอลในเลือดปริมาณมากเกินไปจะส่งผลให้มีโอกาสเกิดโรคหัวใจเฉียบพลันได้เพราะฉะนั้นเราควรควบคุมการรับประทานอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูงไม่ให้เกินเป้าหมายที่แพทย์ต้องการ3. ควบคุมความดันโลหิตให้ได้ระดับตามที่แพทย์กำหนด ทำให้ช่วยลดภาระของหัวใจ ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป4. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสมตามที่แพทย์กำหนด 5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอให้เหมาะสมกับแต่ละวัย ไม่มีคำว่าสายในการเริ่มต้นในการออกกำลังกาย6. ควบคุมน้ำหนักไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด 7. สนุกกับการรับประทานอาหารหลากหลายชนิดให้ครบ 5 หมู่ ลดอาหารเค็ม ลดอาหารที่มีไขมันสูง8. ดูแลสุขภาพจิตใจให้มีความสดชื่น แจ่มใส หากพบว่าคุณหรือคนที่รักในครอบครัวมีอาการซึมเศร้าเกินกว่า 2 สัปดาห์ สิ่งที่สำคัญคือการพาตนเองหรือคนที่คุณรักไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากวิธีปฏิบัติด้านบน ถ้าหากท่านใดยังปฏิบัติข้อใดยังไม่เต็มที่ จากนี้ลองสัญญากับตัวเองว่าเราจะปรับการปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อเป็นการถนอมดูแลหัวใจของเราให้แข็งแรง เราเชื่อว่าคุณทำได้!!#สุขภาพดีทุกจังหวะชีวิต
READ MORE

29Oct, 2018

4 Applications สำหรับสายรักสุขภาพ

By: | Tags:

เนื่องด้วยเทร็นด์สุขภาพกำลังมาแรง จึงมีแอพพลิเคชั่นเพื่อสุขภาพเกิดขึ้นมากมายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งานมากขึ้นและสามารถช่วยดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยในปัจจุบันก็มี Application สุขภาพที่กำลังอินเทร็นด์ เรามาทำความรู้จักกับ 4 แอปพลิเคชัน เพื่อคนรักสุขภาพกันเลย   1.FoodiEat คนไหนเคร่งครัดเรื่องรับประทานอาหารและชอบออกกำลังกาย อันนี้เหมาะมากๆครับ “FoodiEat” เป็นแอปพลิเคชันที่ วิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI) และอัตราความต้องการเผาผลาญพลังงานของร่างกายในแต่ละวัน (BMR) ได้ ดังนั้นเราสามารถ Download นำมาปรับใช้เพื่อดูประวัติการรับประทานอาหารและออกกำลังกายจะทำให้ทราบว่าอาหารที่บริโภคนั้น เหมาะสมกับความต้องการพลังงานของร่างกายหรือไม่ • จัดทำโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล   2.วัดกำลัง แอปพลิเคชันนี้ดีมากๆ มีทีเด็ดตรงที่เป็นภาษาไทยและมาแนวเชิงวิชาการมากๆครับ เป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยวัดความสามารถในการออกกำลังกายด้วยเครื่องมือการวัดที่หลากหลาย ซึ่งวัดและประเมินค่าต่างๆ ดังนี้ 1.ประเมินความเสี่ยงจากร่างกาย (PAR-Q) 2.วัดค่าดัชนีมวลกาย (BMI), เส้นรอบพุง, ความทนทานของกล้ามเนื้อ, และความยืดหยุ่น 3.บันทึกค่าที่วัด และแสดงการเปลี่ยนแปลงออกมาในรูปแบบกราฟ 4.คำแนะนำในการออกกำลังกาย รวมถึงข้อควรระวังในวัยต่างๆ 5.รูปแบบการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ที่บ้านหรือที่ทำงาน • แอปพลิเคชันนี้จัดทำโดยบริษัท โอเพ่นดรีม จำกัด ด้วยความร่วมมือกับมูลนิธิหมอชาวบ้าน และการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภายใต้โครงการจัดการความรู้สุขภาพ ผ่านสื่อและเทคโนโลยีออนไลน์มูลนิธิหมอชาวบ้าน 3.นับก้าว แอปพลิเคชันนี้น่าสนใจมากตรงที่ช่วยนับจำนวนก้าวรายวันและนับแคลอรี่ที่ตัวเราเผาผลาญ การใช้ง่ายมากๆ เพียงกดแตะปุ่มเริ่มต้น เจ้าตัวแอปพลิเคชันนี้ก็จะเริ่มนับจำนวนก้าวที่คุณเดิน ไม่ว่าโทรศัพท์จะถืออยู่ในมือ หรืออยู่ในกระเป๋าสะพาย กระเป๋ากางเกง หรือที่ปลอกแขน แอปสามารถบันทึกจำนวนก้าวของคุณได้โดยอัตโนมัติแม้ขณะที่หน้าจอล็อก และยังมีรายงานผลออกมาเป็นกราฟเพื่อดูสถิติของคุณในรูปแบบรายสัปดาห์ รายเดือน รับรองว่าคุณจะเพลิดเพลินไปกับการเดินแน่นอน • แอปพลิเคชันนี้จัดทำโดย Leap Fitness Group 4.7 minutes แอปพลิเคชั่นสำหรับผู้ที่มีเวลาออกกำลังกายน้อยใช้เวลาออกกำลังกายแค่ 7 นาทีต่อวัน แอปพลิเคชั่นเพื่อการออกกำลังกาย สำหรับผู้ที่มีเวลาออกกำลังกายน้อย แต่ให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งสุดๆเพราะท่าออกกำลังกายแต่ละท่าล้วนเป็นท่าที่มีความหนักหน่วงสามารถเผาผลาญไขมันในร่างกายได้เป็นอย่างดี เพียงทำเป็นประจำทุกวันรูปร่างจะกลับมาผอมเพรียวดั่งใจต้องการแน่นอน นอกจากนี้แอปพลิเคชั่นก็สามารถใช้งานได้ง่ายไม่ยุ่งยากและมีเสียงช่วยแนะนำระหว่างการออกกำลังกายอีกด้วย • แอปพลิเคชันนี้จัดทำโดย Perigee AB คุณผู้อ่านทุกท่านเลือกได้เลยครับว่าจะใช้ […]
READ MORE

22Oct, 2018

เครื่องปั๊มน้ำนมใช้แบบไหนดี

By: | Tags:

                 เครื่องปั๊มน้ำนมใช้แบบไหนดี เพราะนมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก และถ้าคุณมั่นใจแล้วว่า“จะต้องเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ได้ ไม่ว่าจะยังไงก็จะสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อลูกจะได้กินนมเรา” ถ้าเป็นเช่นนี้ล่ะก็ คุณก็ควรจะมีเครื่องปั๊มนมดีๆ สักเครื่องมาเป็นผู้ช่วย เพราะอุปกรณ์นี้สามารถช่วยคุณได้ในหลายๆ เรื่อง ทั้งการกระตุ้นเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนม ช่วยรักษาปริมาณน้ำนมให้คงอยู่ในกรณีที่ลูกดูดไม่ได้ ช่วยทำ stock น้ำนม ในกรณีที่คุณแม่จะต้องออกไปทำธุระข้างนอกหรือว่ากลับไปทำงานประจำตามปกติ
READ MORE

22Oct, 2018

เตรียมพร้อมเมื่อลูกน้อยมีไข้

By: | Tags:

เตรียมพร้อมเมื่อลูกน้อยมีไข้ ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย สำหรับเด็กน้อย เป็นวัยที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะหากมีคนในบ้านป่วยหรือไปใกล้ชิดกับผู้ป่วย และ อาการสำคัญที่จะพบบ่อยคืออาการ “ไข้” ที่อาจเป็นสัญญาณ ที่บ่งบอกถึงอาการหรือโรคติดเชื้อที่ลูกน้อยซึ่งยังอยู่ในวัยเด็กอาจจะเป็นได้ และเพราะไข้ เป็นอาจจะเป็นอาการในเบื้องต้นที่นำไปสู่อาการเจ็บป่วยอื่นอีกมากมาย การรู้จักดูแลอาการไข้ในเบื้องต้น จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาเตรียมพร้อมไว้เสมอ จะรู้ได้อย่างไรว่า ลูกเรามีอาการไข้
READ MORE

22Oct, 2018

การเลือกใช้สนับเข่าเมื่อเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม

By: | Tags:

 การเลือกใช้สนับเข่าเมื่อเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม              เมื่อเวลาผ่านไป โรคข้อเข่าเสื่อมจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในข้อเข่าเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่ กระดูกอ่อนผิวข้อเท่านั้นที่จะมีการสึกหรอ ส่วนปลายกระดูกของต้นขาและส่วนต้นของกระดูกหน้าแข้งที่ประกอบกันเป็นข้อเข่าก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยกระดูกจะบานออก หรือที่เรารู้จักกันในอาการ “กระดูกงอก (Bone spur)” นั่นเอง อีกทั้งยังมีผลต่อเอ็นภายในข้อ รวมทั้งมีกล้ามเนื้อรอบเข่าลีบเล็กลงจากปฏิกิริยาในร่างกาย โครงสร้างทั้งภายในและภายนอกเข่าเหล่านี้ มีส่วนสำคัญในการควบคุมความมั่นคงของเข่า ดังนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงถดถอยของโครงสร้างเหล่านี้ ย่อมมีผลต่อความมั่นคงของข้อเข่าที่จะลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
READ MORE